วันอังคารที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2559

อาการ 7 อย่างของรถที่ต้องเริ่มดูแล

7 อาการของรถยนต์ที่ต้องเริ่มดูแล
วิธีการสังเกตุความผิดปกติของรถยนต์ที่เราต้องเริ่มให้การดูแล ก่อนที่รถจะเริ่มมีปัญหาครับ เราสามารถสังเกตุอาการง่ายๆ ตามอาการดังนี้
  ระยะเวลาในการสตาร์ทเครื่องนานขึ้น อาการนี้โดยปกติ จะใช้เวลาหลังจากเราบิดกุญแจสตาร์ท รถจะใช้เวลาถีบตัวไม่เกิน 3 ครั้ง ไม่เกิน 30 วินาที หากนานกว่านี้แสดงว่า แบตเตอร์รี่ใกล้จะหมดสภาพ เตรียมตัวเปลี่ยนใหม่ได้เลยครับ
  ร่องรอยน้ำมัน หากจอดรถไว้ เราสามารถสังเกตุพื้นใต้ท้องรถได้ว่ามีร่องรอย น้ำมัน น้ำมันเครื่องหยดหรือไม่ เพราะปกติน้ำมันจะไม่หยด หากพบแสดงว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นแล้ว ควรเข้าศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถเพื่อให้ช่างตรวจสอบต่อไป
  เสียงที่ผิดปกติ  เราสามารถสังเกตุเสียงรถที่ผิดปกติได้ในขณะรอบเดินเบา หรือขณะใช้งาน อาจจะสังเกตุได้ยาก แต่ถ้าเป็นเสียงที่ผิดไปจากที่เคยได้ยิน เช่นเสียงเหล็กกระทบกัน ควรรีบให้ช่างที่ชำนาญตรวจสอบดู
  มีควันสีขาวออกทางท่อ  โดยปกติรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซิน จะไม่มีควันสีขาวออกทางท่อไอเสีย หากรถเรามีควันสีขาวออกทางท่อ จะต้องมีสิ่งผิดปกติของเครื่องยนต์เกิดขึ้น ควรรีบให้ช่างทำการตรวจเช็คโดยด่วน
  มีเสียงในขณะที่เหยียบเบรค ในขณะที่เราเหยียบเบรค แล้วมีเสียงเกิดขึ้นเช่น เสียงจี๊ดๆ แสดงว่าผ้าเบรคใกล้จะหมด ให้รีบทำการเปลี่ยนผ้าเบรคก่อนที่จะเกิดความเสียหายต่อระบบเบรคและจานเบรค
  รถมีอาการเร่งแล้วอืด ไม่พุ่งเหมือนเดิม แต่ไม่มีร่องรอยน้ำมันรั่วหรืออื่นๆ เป็นไปได้ว่ารถถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง กรองน้ำมันเครื่อง กรองอากาศอาจจะอุดตัน ต้องทำการเป่าทำความสะอาดหรือเปลี่ยนกรองอากาศ เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง
  รถออกอาการนุ่มเกินไป  ถ้าเราสังเกตุว่ารถออกอาการนุ่มเกินไปขณะขับขี่ ขึ้นเนินลูกระนาดแล้วมีการเด้งมากเกินไป อาจเกิดจาก ลูกยางต่างๆหมดสภาพ หรือ เกิดจากโช้คอัพ หมดสภาพ ต้องให้ช่างทำการตรวจเช็คต่อไป
ครับนี่ก็เป็นอาการ 7 อย่างเบื้องต้นที่ควรรู้เกี่ยวกับรถยนต์ของเรา โดยอาการทั้งหมดเราสามารถใช้ความสังเกตุของตัวเราสังเกตุดูก่อนที่จะให้ช่างตรวจสอบอีกทีเพื่อหาก ขณะเดินทางจะได้มีโอกาสที่รถจะเสียกลางทางน้อยลง ด้วยความปรารถนาดีจาก รถเช่าอุบล1-9 ครับ

ข้อมูลจาก  www.toyotanon.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น